SAT คืออะไร? ทำไมต้องสอบ?
สอบ SAT เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยคัดเลือกนักเรียนที่ต้องการเข้าเรียนในระดับปริญญาตรีที่สหรัฐอเมริกาและหลักสูตรนานาชาติส่วนใหญ่ในไทย ข้อสอบ SAT มีเนื้อหาใน 2 กลุ่มวิชาคือ Mathematics และ Reading & Writing โดยคะแนนเฉลี่ยทั้งโลกของผู้สอบในแต่ละส่วนจะอยู่ที่ประมาณ 530 คะแนน
คะแนน SAT และความสำคัญ
คะแนน SAT เป็นองค์ประกอบสำคัญในการพิจารณาเข้าเรียนในหลักสูตรที่ต้องการ SAT เช่น หลักสูตรทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ มักต้องการผล SAT ในส่วน Mathematics เท่านั้น โดยมักต้องการผลในระดับ 600-650 คะแนนขึ้นไป หลักสูตรทางด้านภาษา มักต้องการผล SAT ในส่วน Reading & Writing เท่านั้น โดยมักต้องการผลในระดับ 450-500 คะแนนขึ้นไป หลักสูตรทางด้านบริหารและเศรษฐศาสตร์ของจุฬาฯและธรรมศาสตร์ต้องการผลสอบทั้งสองส่วน ส่วนมหาวิทยาลัยอื่นๆมักต้องการเพียงผล Mathematics
การสมัครสอบ SAT และการสอบ
การสมัครสอบ SAT สามารถทำผ่านทางเว็บไซต์ของ College Board ซึ่งเป็นองค์กรที่รับผิดชอบการสอบ SAT โดยต้องสร้าง ID ก่อน หลังจากนั้นสามารถเลือกวันสอบได้ การสอบ SAT จะถูกจัดขึ้นหลายครั้งต่อปี ในไทยจัดขึ้น 6 ครั้งต่อปี โดยจะมีศูนย์สอบทั่วประเทศ
การสอบ SAT แบบ Digital SAT
ในปี 2023 การสอบ SAT จะเปลี่ยนเป็นแบบ Digital SAT หรือการสอบผ่านอุปกรณ์ เช่น Tablet, Laptop ผู้สอบจะต้องนำอุปกรณ์ไปสอบที่ศูนย์สอบ โดยเวลาในการทำสอบ (ไม่รวมเวลาพัก) จะเหลือ 2 ชั่วโมง 14 นาที โดยในแต่ละกลุ่มวิชาจะแบ่งการสอบออกเป็น 2 Module Math และ RW ซึ่งจะแบ่งเวลาในการทำข้อสอบแต่ละโมดูลด้วย
ค่าสอบ SAT และสนามสอบ
ค่าสอบ SAT ในปี 2023 อยู่ที่ $103 (ประมาณ 3,600 บาท) สนามสอบ SAT มักจะอยู่ในโรงเรียนนานาชาติหรือมหาวิทยาลัยในไทย โดยมีศูนย์สอบทั่วประเทศ
การประกาศผลสอบ SAT
ผลสอบ SAT จะถูกประกาศให้ทราบโดยการ Login เข้าไปใน account ที่ใช้สมัคร โดยประมาณ 2 สัปดาห์หลังวันสอบ